อีอีซี คิกออฟตอกเสาเข็ม “ไฮสปีด-สนามบินอู่ตะเภา” ต.ค.นี้

อีอีซี คิกออฟตอกเสาเข็ม “ไฮสปีด-สนามบินอู่ตะเภา” ต.ค.นี้ / นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุมกพอ. เคาะแผนพัฒนาเมืองใหม่รอบสนามบินอู่ตะเภา ลงทุน 1.3 ล้านล้านบาท เร่งลงทุนหลังสูญรายได้ช่วงโควิดไป 2 ล้านล้านบาท
.
ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ – นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) แถลงผลหลังการประชุมกพอ.ที่มีนายกฯเป็นประธานว่า ได้มีการเสนอการพัฒนาเมืองใหม่ต่อที่ประชุมในพื้นที่ 30 ก.ม. รอบสนามบินอู่ตะเภา จากพัทยาไปถึงเมืองระยอง เพื่อลดความแออัด
.
โดยจะมีธุรกิจ 5 ด้าน คือ 1.สำนักงานและศูนย์ราชการ // 2.ศูนย์กลางการเงินของอีอีซี // 3.ศูนย์กลางทางการแพทย์ // 4. ศูนย์การศึกษาระดับนานาชาติ 5.ศูนย์ธุรกิจ และ 6.ที่อยู่อาศัย โดยมีมูลค่าการลงทุนใน 10 ปี อยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท โดยในช่วงโควิดที่ผ่านมา ประเทศไทยเสียรายได้ราว 2 ล้านล้านบาท เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องสร้างโครงการใหม่เพื่อชดเชยรายได้ส่วนที่หายไป
.
ทั้งนี้ ที่ประชุมกพอ. ได้รับทราบความก้าวหน้าภารกิจขับเคลื่อนโครงสร้้างพื้นฐานหลัก ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุุนรัฐ-เอกชน (PPP) ได้แก่ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 ได้พื้นที่ครบ 100% เอกชนเข้าพื้นที่เตรียมก่อสร้าง โดยส่วนเชื่อมสุวรรณภูมิ ถึงอู่ตะเภา คาดว่าจะเปิดบริการปี 2569 // 2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก การก่อสร้างโครงการฯ ระยะที่ 1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 // 3.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ช่วงที่ 1 ท่าเรือสินค้าเหลวและพื้นที่คลังสินค้า คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 // 4.โครงการท่าเรือแหลมฉบัง งานสาธารณูปโภคและท่าเทียบเรือ F1 คาดว่าจะเปิดบริการได้ในปี 2568 ได้เรียนให้นายกฯ รับทราบแล้วว่าการทำหนังสือส่งมอบที่ดิน หรือ NTP ในเดือน ต.ค.นี้
.
ถือว่าเป็นอีกก้าวสำคัญที่รัฐบาลสามารถผลักดันโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญในอีอีซี 2 โครงการให้ไปสู่การเริ่มต้นก่อสร้าง และทั้ง 2 โครงการมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2569 รัฐบาลอาจจะมีการจัดงานคิกออฟทั้ง 2 โครงการนี้พร้อมกันเพื่อให้เห็นถึงความคืบหน้าของอีอีซี

ที่มา – https://www.facebook.com/TV5HD1/photos/a.1741965209388059/3186887261562506

Scroll Up